หลังจากที่เป็นททอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปในงานเปิดตัวสำหรับ AirTag อุปกรณ์น้องใหม่ที่ใช้สำหรับติดตามสิ่งของหรืออะไรก็ตามที่ต้องการ ล่าสุดเจ้าสิ่งนี้ก็เปิดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
วันนี้ (4 มิถุนายน) Apple ประเทศไทย
เริ่มวางจำหน่าย AirTag อย่างเป็นทางการแล้วในราคาค่าตัวที่ 990 บาท ต่อชิ้น ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ของ Apple, แถมแพ็กเกจสุดคุ้ม ซื้อ 4 ชิ้นในราคา 3,390 บาท สำหรับใครที่ชอบความหรูหราหมาเห่า Apple ก็มีอุปกรณ์ช่วยเสริมให้ AirTag ของคุณดูหรูหรามีระดับมาขึ้น กับ accessories แบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง Hermès (แอร์เมส) ที่มาทั้งในรุปแบบของพวงกุญแจและที่ห้อยกระเป๋า ส่วนราคาก็ตามภาพเลยจ้า
ด้วยระบบการจัดการพลังงานอันชาญฉลาดที่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่คงทน ผู้เล่นเกมจะพบกับความไหลลื่นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังมีการรองรับ Dual 4G SIM ทำให้คุณภาพการโทรด้วยเสียงและวิดีโอออกมาอย่างมีประสิทธิภาพผ่านบริการ VoLTE และ ViLTE มาพร้อมกับเวลาในการตั้งค่าการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น ครอบคลุมทุกสัญญาณ และลดการใช้พลังงานจากการเชื่อมต่อด้วยซิม
Infinix HOT 10S ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Dar-link Ultimate AI Game Booster เทคโนโลยี AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่ง AI จะปรับปรุงการแสดงผลกราฟิกและความไวของหน้าจอสัมผัสด้วยความสามารถอัลกอริธึมที่เรียนรู้และประเมินภาพกราฟิกของเกมล่วงหน้า
เพื่อลดความล่าช้า (Lag) และจะปรับความเร็วในการทำงานของ CPU และ GPU อย่างชาญฉลาด เพื่อปรับปรุงภาพและการเคลื่อนไหวในสถานการณ์การเล่นเกมที่แตกต่างกัน เมื่อรวมกันแล้วจะสร้างประสบการณ์การสลับฉากที่เสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้นขณะเล่นเกม
จอแสดงผลที่เรียบเนียน ด้วยจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6.82 นิ้ว HD+ พร้อมอัตราการรีเฟรชที่ 90Hz
ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมเมื่อรับชมเทคโนโลยีภาพแบบกราฟิก และยังมีอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุดที่ 180Hz จึงทำให้การตอบสนองของหน้าจอแสดงผลไวต่อการสัมผัส
ด้วยจอแสดงผล 6.82 นิ้ว HD+ พร้อมอัตราการรีเฟรช 90Hz ผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์การรับชมที่ดีขึ้นเมื่อรับชมเอฟเฟกต์ภาพ CGI ล่าสุด อัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 180Hz ให้การตอบสนองที่ดีที่สุดและการจดจำใบหน้าที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ปลดล็อกอุปกรณ์ได้เร็วขึ้นปลอดภัยและสะดวกยิ่งขึ้น
คุณภาพของกล้องสามตัว Nightscape 48 ล้านพิกเซล จับทุกรายละเอียดในความมืด เป็นครั้งแรกในซีรีส์ HOT อย่าง HOT 10S ที่มาพร้อมกล้องหลัง 48MP HD, กล้อง AI และกล้องความลึก 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชด้านหลัง คุณสมบัติ Super Nightscape ใหม่ทั้งหมด
ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพที่น่าประทับใจในที่มืดหรือในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย ในขณะที่การบันทึกวิดีโอความละเอียด 2K ช่วยให้การบันทึกภาพทำได้อย่างสมจริง
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI สำหรับถ่ายภาพบุคคลในกล้องหน้าที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างคมชัดระดับมืออาชีพ และเป็นกล้องตัวแรกในซีรีส์ HOT ที่มีเทคโนโลยีติดตามดวงตา วิดีโอเบลอหลังอัตโนมัติ และการตกแต่งใบหน้าช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงาม
เปิดตัว Huawei MatePad Pro 12.6/10.8 นิ้ว และ MatePad 11 รุ่นราคาประหยัด
เป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ของปีสำหรับหัวเว่ยเลยก็ว่าได้ ที่นอกจากจะเปิดตัว HarmonyOS แล้วยังมีการเผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมากมาย หนึ่งในนั้นคือแท็ปเล็ตสองรุ่นใหม่ Huawei MatePad 11 และ MatePad Pro 10.8 และ 12.6
แท็ปเล็ตรุ่นทั่วไป ที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 10.95 นิ้ว แบบ LCD ความละเอียด 2,560 x 1,600 พิกเซล หน้าจอรีเฟรชเรตที่ 120Hz, มาพร้อมระบบเสียงเป็นแบบลำโพง 4 ตัว เป็นความร่วมมือกับ harman/kardon ช่วยปรับแต่งเสียงและไมโครโฟน 4 ตัว
ชิพเซ็ตที่ใช้เป็น Snapdragon 865 ที่ถึงจะเป็นรุ่นเก่าแต่ยังคงให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่น้อยหน้ารุ่นปัจจุบัน, RAM ให้มา 6GB และหน่วยความจำ 128GB แบตเตอรี่ขนาด 7,250 mAh พร้อมชาร์จไว 22.5W สามารถในการรองรับ M-Pencil และสมาร์ทคีย์บอร์ด กับราคาค่าตัวที่ €399 ยูโร (ประมาณ 15,xxx บาท)
เริ่มกันที่ชิพเซ็ต รุ่น 12.6 นิ้วมาพร้อมชิพเซ็ต Kirin 9000E ส่วนในรุ่น 10.8 ใช้ชิพเป็น Snapdragon 870 ทั้งสองรุ่นให้ RAM มาสูงสุดที่ 8GB และความจุที่ 128/256GB พร้อมเซ็ตกล้องหลัง 3 ตัวพร้อม 3D depth sensor
ในรุ่น 12.6 นิ้ว ใช้หน้าจะเป็นแบบ OLED ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล และรีเฟรชเรต 60Hz ส่วนในรุ่น 10.8 นิ้วใช้หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD กับรีเฟรชเรตที่ 120Hz ที่ความละเอียด 2560×1600 เชพิกเซล เท่ากัน แถมรองรับ HDR 10 และกล้องหน้าที่ขอบด้านข้าง ให้ฟีลวีดีโอคอลที่เหมือนแล็ปท็อปมากขึ้น
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น